แม่ฮ่องสอน – ขุนยวม – จอมทอง

 18/11/2016 อ.เมือง – แม่ฮ่องสอน 

​Coffee Morning ร้านในเครือเดียวกับ Before Sunset ที่วัดพระธาตุดอยกองมู  ปรากฎตัวในหนังเรื่อง The Melody เดินตรงออกมาจากตลาดพอสมควร หลังจากที่เราแวะที่วัดหัวเวียงแล้ว 

ในเมืองที่เราหลงรักหัวปักหัวปำ 

แน่นอน นี่ไม่ใช่ครั้งแรก 

ครั้งก่อน เรามีเวลามาจมอยู่ในเมืองนี้ 4-5วัน จึงมีเวลาวิ่งรอบเมืองทุกเช้า 

หนึ่งรอบเมืองจะได้ระยะทางประมาณ 10km (ขึ้นลงพระธาตุฯ หนึ่งรอบประมาณ 1.5km) 

ผลพลอยได้จากการวิ่งรอบเมืองติดต่อกัน 2-3วัน คือเราสามารถเดินไปไหนมาไหนในเมืองเล็กๆ นี้ได้โดยแทบไม่ต่องใช้แผนที่เลย แม้ว่าการมาครั้งนี้จะห่างจากครั้งที่แล้วมากว่า 2ปีแล้ว (เพราะเมืองนี้ ไม่ได้มาถึงได้ง่ายเลย แม้ว่าถ้ามาเครื่องบินก็อาจต้องลงต่อเครื่องที่เชียงใหม่ก่อน) 

อากาศดี หมอกคลุม ผู้คนอัธยาศัยดี ใจดี รถน้อย บ้านสวย วัดสวย และตู้ไปรษณีย์กระจายอยู่ทั่วไป 

ความสงบของเมืองคือเสน่ห์หาใดเปรียบ 

เรามีเวลาไม่มากนัก ที่จะอยู่จนเราหายคิดถึง 
===== 
19/11/2016 อ.ขุนยวม – แม่ฮ่องสอน

อ.ขุนยวม เป็นถิ่นเริ่มต้นของการก่อตั้งเมืองแม่ฮ่องสอน 

เป็นเมืองติดชายแดนติดต่อออกไปทางรัฐฉาน ซึ่งสามารถต่อไปออกทะเลที่เมืองมะละแหม่ง (หรือเมืองเมาะลำเลิงเมืองหลวงของรัฐมอญ) ซึ่งทำให้นึกถึงนิยายเรื่อง ‘สิ้นแสงฉาน’ นึกถึงชื่อเมืองสีป้อ 

ขุนยวม เป็นบริเวณที่ราบระหว่างหุบเขา แหล่งกำเนิดแม่น้ำยวม เป็นถิ่นฐานของชนชาวไทใหญ่ที่ค่อยๆ ย้ายถิ่นจากฉานเข้ามาอยู่ และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่าง หงสาวดี (พม่า) – ล้านนา (เชียงใหม่) – หริภุญชัย (ลำพูน) ในที่สุด 

ขุนยวมจึงเป็นเมือง Trading มาตั้งแต่โบราณ โดยพ่อค้าชาวไทใหญ่รับ Order จากฝั่งโน้น-ฝั่งนี้ แล้วขึ้นม้าขึ้นควายไปซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าตาม Order ให้ 

จนเมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพา ญี่ปุ่นเข้าประเทศไทย ที่เมืองกาญจนบุรีสร้างทางรถไฟปีนเขาต่อผ่านช่องเขาขาดออกไปพม่า และที่ขุนยวมก็ตั้งเป็นศูนย์บัญชาการกองทหารญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน เพื่อส่งกำลังผ่านชายแดนเข้าพม่าไปรบที่อินเดีย โดยใช้เส้นทางที่พ่อค้าชาวไทใหญ่ใช้ในการเดินทางไปค้าขายกับพม่า และยังใช้เป็นช่องทางรับตัวทหารบาดเจ็บกลับมาเพื่อรักษาตัว โดยตั้งสถานพยาบาลขึ้นที่วัดม่วยต่อใน อ.ขุนยวมนี้ ในที่สุด เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม กองทหารสัมพันธมิตรและไทยจึงให้ทหารญี่ปุ่นออกจากขุนยวม

กระนั้น จึงมีสุสานทหารญี่ปุ่นและสิ่งของต่างๆ ของทหารญี่ปุ่นมากมายอยู่ที่นี่ 

หากแต่ความส้มพันธ์ระหว่างทหารญี่ปุ่นกับชนชาวไทใหญ่ที่นี่กลับกลายเป็นมิตรภาพ เกิดเป็นมีการจัดตั้งพิพิทธภัณฑ์มิตรภาพไทย-ญี่ปุ่นที่นี่ด้วย 
ดังนี้แล้ว ขุนยวมจึงมิได้มีเพียงแค่ดอยอูคอที่สะพรั่งด้วยบัวตอง แต่ยังมีเรื่องราวประวัติเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งไทใหญ่ ล้านนา และทหารญี่ปุ่นยุคครามโลก ทั้งนี้ ก็ยังไม่รวมถึงวัฒนธรรมชาวไทใหญ่ และความเงียบสงบที่มีเสน่ห์แบบขุนยวม 

คืนนี้ เราตัดสินใจค้างคืนที่นี่ แม้ดูขาดแคลนเครื่องอำนวยความสะดวก ไม่มีเครื่องปรับอากาศ 

แต่มันไม่ขาดแคลนลมหนาวและหัวใจอุ่นๆ เลย 

===== 
20/11/2016 อ.จอมทอง – เชียงใหม่ 

เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม-จอมทอง-เชียงใหม่ 

ที่เชียงใหม่ เรามีความผูกพันมากๆ อยู่ 2วัด 

หนึ่งในนั้น คือวัดพระธาตุศรีจอมทอง อยู่ในอำเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ อำเภอเดียวกับดอยอินทนนท์ อยู่บนถนนเชียงใหม่-ฮอด 

มีเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า 

ตามตำนานคือ “พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์อินเดีย พระองค์ได้เสด็จสู่ดอยจอมทอง ได้ขุดคูหูเปิดอุโมงคใต้พื้นดอยจอมทองแล้วทรงรับสั่งให้สร้างพระสถูปไว้ภายในนี้ ทรงอัญเชิญพระบรมธาตุที่อยู่ในสถูปที่พระยาอังครัฏฐะรับสั่งให้สร้างไว้บนยอดดอยนั้น เข้าไปประดิษฐานในสถูปที่สร้างใหม่ในคูหาใต้พื้นดอยจอมทอง” (เจดีย์บางแห่งอาจมีบรรจุพระธาตุของอรหันต์เจ้าองค์อื่น เช่นพระธาตุสององค์ที่วัดพระธาตุดอยกองมู องค์หนึ่งบรรจุพระธาตุพระโมคคัลลานะ ซึ่งนำมาจากเมืองมะละแหม่ง และพระธาตุเจดีย์องค์เล็กอีกองค์หนึ่งบรรจุพระธาตุของพระสารีบุตรซึ่งนำจากเมืองมัณฑะเลย์) 

อำเภอจอมทอง มีฟาร์มปศุสัตว์อยู่ คนพื้นที่ทำการเกษตร 

เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน คุณหมอระหว่างเรียนอยู่ปีท้ายๆ ต้องมาทำงานวิจัยกินอยู่ที่ฟาร์มนี้เป็นเดือน 

สมัยนั้น จนถึงสมัยนี้ การเดินทางจากอำเภอเมืองมาโดยไม่ขับรถเองคือต้องอาศัยรถสองแถวสีเหลืองสายเชียงใหม่-ฮอด ขึ้นจากท่ารถที่ตลาดในเมือง วิ่งออกหางดง-สันป่าตอง-จอมทอง สามารถมาแวะต่อรถขึ้นน้ำตกแม่กลาง (คนเมืองเรียกแม่หกา) ขึ้นดอยอินทนนท์ได้ และผ่านหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองนี้ ถ้าค่อยๆ มาจากสถานีรถไฟ หรืออาเขต (ท่ารถทัวร์2) ก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงหนึ่ง 

ถ้าดูตามแผนที่ อำเภอจอมทองจะอยู่ในระนาบเดียวกับเมืองลำพูน เราสามารถตัดทางออกไปเมืองลำพูนหรือพระธาตุหริภุญชัยได้ 

จอมทองเป็นพื้นที่ที่ภูมิอากาศสุดๆ เหมือนกัน หน้าหนาวตอนเช้าตอนค่ำก็หนาวหมอกลง พอตอนบ่ายตอนเที่ยงแดดจัดร้อนมากๆ ค่อนข้างชนบทมาก สมัยนั้นไม่สามารถหาร้านอาหารกินได้ง่ายๆ 

แต่พอเข้ามาในอุโบสถของวัดพระธาตุศรีจอมทอง มันจะ Contrast กับบริบทของอำเภอจอมทองรอบๆ มาก เพราะพระประธานและการตกแต่งข้างในวิจิตรสวยงามมากๆ ถึงขั้นตะลึง 

รอบๆ ตัววัด จะเป็นใจกลางความเจริญของอำเภอพอดี (ในสมัย ต้องมากดเงิน ATM ก็ต้องนั่งสองแถวเหลืองจากบ้านพักที่มาขออาศัยเข้ามาในตัวอำเภอรอบๆ วัดนี้ จึงจะเจอตู้ ATM) 

จอมทองเริ่มมีความเจริญมากขึ้นตามลำดับแล้วในปีนี้ 

กลับมาที่วัด ก็มีการสร้างศาลาไม้สักหลังใหญ่เพื่อรองรับการประกอบพิธีสงฆ์ แต่จอมทองก็ยังคงเงียบสงบดีอยู่ 

จริงๆ ไม่ใช่แค่วัด แต่เป็นอีกอำเภอหนึ่งที่เราผูกพัน 

#toomuchmemoryaround 
ยังไม่มีโอกาสพาปัณณ์ไปนั่งรถเหลืองเลย 

1 Comment

Leave a comment